การปกป้องอาหาร (Food Defense) เป็นองค์ประกอบสำคัญในการปกป้องผู้บริโภคและธุรกิจของคุณจากการคุกคามทั้งภายใน และภายนอก ซึ่งครอบคลุม ทั้งภัยคุกคามที่มีศักยภาพทั่วไปจากการปนเปื้อนผลิตภัณฑ์โดยตั้งใจ และอาจมาจากการโจมตีก่อการร้ายซึ่งมีความเป็นไปที่น้อยกว่า

ภัยคุกคามจากห่วงโซ่อุปทาน หรือภัยคุกคามที่เกิดจากการผลิต สามารถทำให้ลดลงเพื่อลดผลกระทบในวงกว้างได้
ดังนั้นโปรแกรมปกป้องด้านอาหารต้องได้รับการจัดทำเพื่อลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามทั้งภายใน และภายนอกเพื่อปกป้องลูกค้าของคุณ

 

อะไรคือ การปกป้องอาหาร (Food Defense)

• GFSI ได้ให้คำนิยามค่าว่า การปกป้องอาหาร (Food Defense) ว่า : “กระบวนการเพื่อทำให้มั่นใจในความปลอดภัยของอาหารและเครื่องดื่มจากการโจมตี (malicious attack) โดยเจตนารวมถึงการทำให้ด้อยลงโดยมีแรงจูงใจเพื่อนำไปสู่การปนเปื้อน.” (GFSI Benchmarking requirements version 7.2 (draft 2017))
• PAS 96 :2014 ได้ให้คำนิยามว่า “ขั้นตอนการปฏิบัติที่มีการประยุกต์เพื่อประกันการรักษาอาหารและเครื่องดื่มและห่วงโซ่อาหารที่เกี่ยวข้องจากการมุ่งร้ายและการกระตุ้นอุดมการณ์เพื่อให้โจมตี เพื่อนำไปสู่การปนเปื้อนหรือทำให้เกิดการหยุดชะงักของการจัดส่ง”

วงการอุตสาหกรรมและหน่วยงานกำกับดูแลได้พัฒนาระบบการจัดการความปลอดภัยอาหารยึดหลักการระบบการวิเคราะห์อันตรายและจุดวิกฤตที่ต้องควบคุม ซึ่งได้พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิผลต่ออันตรายต่อความปลอดภัยของอาหารที่ไม่ได้ตั้งใจ ได้เป็นอย่างดี แต่หลักการตาม HACCP ไม่ได้ใช้เพื่อตรวจสอบหรือบรรเทาการโจมตีเจตนา และดังนั้น HACCP จึงไม่เกี่ยวข้องกับการปกป้องอาหาร

แรงจูงใจหรือสาเหตุสำหรับการปกปอ้งอาหาร(Food Defense)เป็นความตั้งใจเพื่อที่จะทำอันตรายต่อผู้บริโภคหรือบริษัท ซึ่งมีความแตกต่างกว่าแรงจูงใจสำหรับเรื่อง อาหารปลอม (Food Fraud) เพื่อสร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ ด้วยเหตุผลนี้ การปกป้องอาหารจึงมีวิธีการที่แตกต่างจาก การป้องกันการปนเปื้อนโดยไม่เจตนา HACCP หรือ การป้องกันอาหารปลอม (Food Fraud)

 

ขั้นตอนในการออกแบบระบบปกป้องอาหาร

เพื่อให้สามารถนำไปปฏิบัติในองค์กร, ขั้นตอนควรเป็นไปดังนี้:

1) จัดทำทีมปกป้องอาหาร

2) ทำการประเมิน ระบุ และประเมิน ภัยคุกคามและช่องโหว่ที่มีนัยยะ

3) ระบุ และเลือกมาตรการบรรเทา (mitigation measures)ที่เหมาะสม

4) ทำเอกสารประเมินภัยคุกคาม มาตรการบรรเทา (mitigation measures) การตรวจพิสูจน์ และการจัดการอุบัติการณ์ ในแผนปกป้องอาหาร ที่สนับสนุนระบบจัดการความปลอดภัยของอาหาร

5) ทำการอบรม และ สื่อสารกลยุทธ์ และ นำแผนการป้องกันอาหารไปปฏิบัติ

6) ทวนสอบประสิทธิผล

 

ข้อควรระวัง หลักคิดในการวางระบบ


• ขอบเขตการประเมินนี้ ระดับของภัยคุกคามที่พิจารณาควรเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับสถานประกอบการตนเป็นหลัก ซึ่งรวมถึงพนักงาน และสถานที่อื่นที่เกี่ยวข้อง รวมถึง ห่วงโซ่อุปทาน และ ระบบ IT
• ในการพิจารณา ต้องเข้าใจว่าส่วนใดของกระบวนการ ที่เป็นแหล่งเป้าหมายในการโจมตี ไม่ว่าภายนอกองค์กร หรือภายในองค์กร
• ไม่ใช่ทุกช่องโหว่หรือภัยคุกคามจะมีความสำคัญเท่ากัน ในการที่ต้องนำไปจัดทำแผนบรรเทา ด้วยเหตุผลนี้จึงควรต้องทำการระบุภัยคุกคามให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ เพื่อให้สามารถทำการประเมินในขั้นต่อไปได้ ซึ่งหากหลังจากเกิดอุบัติการณ์ มาตรการบรรเทาสามารถจัดทำเพิ่มเติมตามจำเป็น
• การประเมินภัยคุกคาม สามารถทำเป็นกลุ่มของผลิตภัณฑ์ กลุ่มวัตถุดิบ ได้ และเมื่อใดที่มีความเสี่ยงในกลุ่ม จะสามารถวิเคราะห์เชิงลึกในขั้นต่อไปได้

• TACCP (Threat Analysis and Critical Control Point) เป็นระบบการวิเคราะห์ภัยคุกคามที่ยอมรับโดย GFSI (ISO22000 , FSSC ,BRC etc ) ซึ่งวิธีการนี้ ถูกนำเสนอโดย Publicly Available Specification (PAS 96) ซึ่งจัดทำโดย Centre for the Protection of National Infrastructure (CPNI) in collaboration กับ สถาบันมาตรฐานอังกฤษ ดาวน์โหลดฟรีได้ที่นี่่  https://www.bsigroup.com/en-GB/PAS-96/ 

• การกำหนดวิธีการเพื่อปกปอ้งอาหาร ภัยคุกคามที่มีนัยยะต้องได้รับการประเมินความสำคัญ การใช้คะแนนความเสี่ยงสามารถใช้ได้ (โอกาสการเกิด ความรุนแรง ผลกระทบ ซึ่งปัจจัยอื่นเช่น ระดับการเข้าถึง ระดับการตรวจจับ สามารถใช้ได้เช่นกัน กลยุทธ์การป้องกันสำหรับความเสี่ยงที่มีนัยยะนี้ ควรต้องได้รับการจัดทำเป็นเอกสาร
• เนื่องจากแผนปกป้องต้องได้รับการสนับสนุนจาก FSMS ดังนั้น ไม่ว่าแผนบรรเทา กิจกรรมการตรวจพิสูจน์ การแก้ไข การป้องกัน การอบรม หน้าที่ การจัดเก็บเอกสารสารสนเทศ และ การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึง นโยบาย FSMS การตรวจติดตามภายใน การทบทวนฝ่ายบริหาร
• ประสิทธิผลของการปกป้องอาหาร มาจากคนเป็นหลัก ดังนั้นไม่ว่าภายนอก ซัพพลายเออร์ พนักงานสัญญาจ้าง หรือ พนักงานภายใน จึงเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ การอบรมและแผนการสื่อสารเป็นหัวใจหลักต่อการประสบความสำเร็จ
• การทำการประเมินภัยคุกคาม ควรทำโดยทีมงานที่มีองค์ประกอบจากหน่วยงานหลากหลาย ( ส่วนงานบุคคล รักษาความปลอดภัย คุณภาพ ไอที ผลิต วิศวกรรม etc ซึ่งองค์ประกอบของทีมงานจะมีความแตกต่างจากระบบ HACCP หรือ การปลอมเอกสาร ( Food Fraud) ทีมงานต้องมีความเข้าใจในเบื้องต้นในเรื่องการปกป้องอาหาร การชี้บ่งภัยคุกคาม ช่องโหว่ ดังนั้น การให้ความรู้ต่อทีมงานมีความจำเป็นก่อนการประเมิน และ ในบางกรณีอาจจำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกในขั้นตอนการประเมิน
• ผลการประเมินภับคุกคาม เพื่อให้มีแผนในการจัดการกับภัยคุกคามและช่องโหว่ ควรมีรายละเอียดของ ความเสี่ยงที่ระบุ และ วิธีการในการควบคุมบรรเทา (วิธีการ กลไก ในการกำจัดหรือลดโอกาสการเกิด หรือ เพิ่มความสามารถในการดักจับ)
• การประเมินต้องมองในมุมช่องโหว่กับพื้นที่และอุปกรณ์หลักๆ ว่าอาจมีการทำให้เกิดความปนเปื้อนเสียหายได้อย่างไร จากผู้ไม่หวังดี รวมพนักงานและผู้อื่นที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง พื้นที่อ่อนไหว เช่น พื้นที่เปิด มักเป็นพื้นที่เป็นช่องโหว่หลัก สำหรับบรรจุภัณฑ์จะแล้วแต่ประเภทของบรรจุภัณฑ์นั้นๆ ระบบ IT และการปกป้องข้อมูลต้องรวมอยู่ในการประเมินภัยคุกคามนนี้เช่นกัน
• แผนในการจัดการกับภัยคุกคามและช่องโหว่ รวมถึงการประเมินความเสี่ยง ต้องได้รับการทบทวนอยู่เสมอ เช่นในกรณี มีการปรับปรุงอาคารสถานที่ มีข่าวสารในวงการเรื่องภัยคุกคามใหม่ๆ หรือเมื่อเกิด อุบัติการณ์ต่างๆ ซึ่งรวมถึงคำร้องเรียนลูกค้า บันทึกการทบทวนนี้ ต้องได้รับการจัดเก็บไว้
• มาตรการทั่วๆไป มักเป็นเรื่องการลดการเกิดของภัยคุกคามแต่ไม่ว่าอย่างไร หากเป็นไปได้ มาตรการในการตรวจจับและการเพิ่มเติมการพิสูจน์ทราบหรือทดสอบเพิ่มเติมอย่างทันท่วงที ต้องมีการกระทำเมื่อจำเป็น เพื่อปอ้งกันไม่ให้เป็นประเด็นด้าน ความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์

•ตัวอย่างเอกสารภาษาไทย "แนวทางปฏิบัติเพื่อการป้องกัน ผลิตภัณฑ์อาหาร จากการปนเปื้อน โดยเจตนาในการผลิตและแปรรูป ปลาหนัง "

 

สิ่งที่ต้องทำ

  • กำหนดกระบวนการ ในการจัดทำ นำไปใช้ คงรักษาไว้และ การปรับปรุงอย่างต่อเนื่องของการปกป้องอาการ
  • กำหนดอำนาจหน้าที่ของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ กระบวนการปกป้องอาหาร
  • กำหนดกระบวนการในการประเมินภัยคุกคามและช่องโหว่ต่างๆ
  • กำหนดมาตรการควบคุมบรรเทาความเสี่ยงต่างๆ และนำไปปฏิบัติ
  • กำหนดให้มีการทบทวนการประเมินความเสี่ยงในเรื่องภัยคุกคามและช่องโหว่อย่างน้อยปีละครั้ง
  • กำหนดให้มีการทบทวนมาตรการควบคุมบรรเทาภัยคุกคามและช่องโหว่อย่างน้อยปีละครั้ง
  • ต้องมีระบบการฝึกอบรมให้กับพนักงานในส่วนมาตรการปกป้องอาหาร
  • มาตรการควบคุมบรรเทา ต้องระบุวิธีการในการปกป้อง การผลิต อุปกรณ์ สารเคมี ระบบสาธารนูปโภค การจัดเก็บ การรับ การขนส่ง รวมถึงผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป
พื้นที่ หรือสิ่งที่ต้องพิจารณาเพื่อจัดการอย่างน้อยควรต้องครอบคลุมถึง 
  • การรักษาความปลอดภัยภายนอก 
  • การรักษาความปลอดภัยภายใน
  • การรักษาความปลอดภัยด้านจัดส่งและการรับ
  • การรักษาความปลอดภัยด้านบุคลากร
 

หลักฐานที่อาจตอ้งมี

เอกสารกำหนดอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบ
เอกสารการประเมินภัยคุกคามและช่องโหว่
วิธีการที่ซึ่ง มาตรการควบคุมบรรเทา ปกป้องพื้นที่ที่มีความอ่อนไหว การเข้าถึงของผู้ไม่เกี่ยวข้องสู่ผลิตภัณฑ์และสถานที่  การรักษาความปลอดภัยของการรับ จัดเก็บ  วัตถุดิบ สารผสมอาหาร สารเคมี บรรจุภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ระหว่างผลิต ผลิตภัณฑ์สำเร็จ  เครื่องจักรอุปกรณ์ การจัดส่งผลิตภัณฑ์  
วิธีการที่ซึ่ง  มาตรการควบคุมบรรเทา บันทึก การเข้าถึงสถานที่ ของพนักงาน ผู้รับเหมาจ้างช่วง ผู้เยี่ยมชม 
 

ผู้ตรวจมองหาหลักฐานอะไร 

ผู้ตรวจประเมิน ควรพิสูจน์ว่า การประเมินภัยคุกคาม การระบุจุดเสี่ยง และ มาตรการควบคุมบรรเทา ทำได้อย่างเพียงพอและมีประสิทธิผล ซึ่งอาจรวมถึง 
การตรวจทานว่าส่วนผสมของทีมงานประเมินมีความเพียงพอ ครอบคลุม และมีความรู้ความสามารถ
ตรวจทานว่าการประเมินภัยคุกคามและช่องโหว่ได้มีการกระทำและเป็นเอกสาร และมาตรการควบคุมบรรเทาที่ควรได้รับการเพิ่มเติมตามการประเมินความเสี่ยงได้รับการระบุและจัดการ 
การประเมินภัยคุกคามทำได้ครอบคลุมตามห่วงโซ่อุปทานตามความเหมาะสม 
ภัยคุมคามที่มีนัยยะ ได้รับการจัดทำ เป็นมาตรการควบคุมบรรเทาตามแผนปกป้อง
วิธีการในจัดการอบรม และสื่อสาร 
ได้มีการพิสูจน์ทราบตามข้อกำหนด ISO22000:2018 ,ข้อ 8.8 ได้มีการวิเคราะห์ผล และ ความถี่ที่ใช้ มีประสิทธิผล   ISO22000:2018,  8.8.2 
มีการเตรียมการในส่วนเหตุฉุกเฉิน ตามข้อกำหนด   ISO22000 ข้อ 8.4 การเตรียมการและการตอบสนองภาวะฉุกเฉิน
หลักฐานว่ารายการข้างต้นได้รับการทบทวนประสิทธิผลการนำไปปฏิบัติผ่านระบบ FSMS ( นโยบาย การสื่อสาร วัตถุประสงค์เป้าหมาย ความตระหนัก ความสามารถ บันทึก การตรวจติดตามภายใน การทบทวนฝ่ายบริหาร เป็นต้น)
 

ข้อกำหนดทีเกี่ยวข้อง

 
ISO22000 : 2018   ข้อ  

4.1 ความเข้าใจในองค์กรและบริบทขององค์กร

 

องค์กรต้องระบุประเด็นปัญหาภายในและภายนอกที่เกี่ยวข้องกับจุดประสงค์ขององค์กรและที่ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการบรรลุเป้าหมายที่คาดหวังของระบบการบริหารความปลอดภัยในอาหารขององค์กร
องค์กรต้องระบุ ทบทวน และอัพเดทข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับประเด็นปัญหาภายนอกและภายในเหล่านี้

หมายเหตุ 1 ประเด็นปัญหาสามารถรวมถึงปัจจัยทางบวกหรือทางลบ หรือเงื่อนไขสำหรับการพิจารณา
หมายเหตุ 2 การเข้าใจบริบทสามารถทำได้ง่ายขึ้นได้โดยการพิจารณาประเด็นปัญหาภายนอกและภายใน ที่ไม่ได้จำกัดเฉพาะทางกฏหมาย เทคโนโลยี การแข่งขัน การตลาด วัฒนธรรม สังคม สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ ความปลอดภัยทางไซเบอร์และอาหารปลอม การคุ้มครองอาหารและการปนเปื้อนที่มีเจตนา ความรู้และสมรรถนะขององค์กร ไม่ว่าจะระดับนานาชาติ ระดับชาติ ระดับภูมิภาคหรือระดับท้องถิ่น

 

FSSC 22000 Ver 4.1

  
2.1.4.3 Food defense 2.1.4.3 การปกป้องอาหาร
2.1.4.3.1 Threat assessment1) The organization shall have a documented and implemented threat assessment procedure in place that:a) identifies potential threats,b) develops control measures, andc) prioritises them against the identified threats.2) To identify the threats, the organization shall assess the susceptibility of its products to potential food defense acts. 2.1.4.3.1 การประเมินภัยคุกคาม1) องค์กรต้องมีเอกสารและการนำไปปฏิบัติ ซึ่งการประเมินภัยคุกคาม ในสถานที่a) ระบุภัยคุกคามที่มีนัยยะb) พัฒนามาตรการควบคุมc) จัดลำดับความสำคัญของภัยคุกคามที่ระบุ2) ในการระบุภัยคุกคาม, องค์กรต้องประเมินความอ่อนไหวต่อผลิตภัณฑ์จากการกระทำปลอมปนที่มีนัยยะ

2.1.4.3.2 Control measures

The organization shall put in place appropriate control measures to reduce or eliminate the identified threats.

2.1.4.3.2 มาตรการควบคุม

องค์กรต้องมีมาตรการควบคุมที่เหมาะสม เพื่อลด หรือกำจัดภัยคุกคามที่ระบุ

2.1.4.3.3 Plan

1) All policies, procedures and records are included in a food defense plan supported by the organization’s Food Safety Management System for all its products.

2) The plan shall comply with applicable legislation.

2.1.4.3.3 แผน

1)นโยบาย กระบวนการ และบันทึกทั้งหมดที่รวมอยู่ในแผนปกป้องอาหาร ต้องได้รับการสนับสนุนจากระบบจัดการความปลอดภัยอาหารขององค์กรสำหรับผลิตภัณฑ์ทั้งหมด

2)แผนต้องสอดคล้องกับกฏหมายที่ประยุกต์ใช้

 

 

ข้อกำหนด BRC Vesion 8

 

BRC Issue 8

Statement of Intent

Systems shall protect products, premises and brands from malicious actions while under the control of the site.

ระบบต้องปกป้องผลิตภัณฑ์ สถานที่ และแบรนด์จากการกระทำที่เป็นอันตราย ขณะที่อยู่ภายใต้การควบคุมของสถานประกอบการ

4.2.1

The company shall undertake a documented risk assessment (threat assessment) of the potential risks to products from any deliberate attempt to inflict contamination or damage. This threat assessment shall include both internal and external threats.

The output from this assessment shall be a documented threat assessment plan. This plan shall be kept under review to reflect changing circumstances and market intelligence. It shall be formally reviewed at least annually and whenever:

• a new risk emerges (e.g. a new threat is publicised or identified)

• an incident occurs, where product security or food defence is implicated.

บริษัท ต้องทำการประเมินความเสี่ยงเป็นเอกสาร(ประเมินภัยคุกคาม) สำหรับความเสี่ยงที่มีนัยยะ ต่อ การก่อการปนเปื้อนหรือให้เกิดความเสียหาย. การประเมินภัยคุกคามนี้ต้องประกอบด้วยภัยคุกคามทั้งภายใน และภายนอก

ผลลัพธ์จากการประเมินนี้ ต้องได้รับการจัดทำเป็นเอกสารแผนการประเมินภัยคุกคาม

แผนนี้ต้องทำได้รับการทบทวนให้สอดคล้องกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงและข้อมูลทางการตลาด เอกสารนี้ต้องได้รับการทบทวนอย่างเป็นทางการอย่างน้อยปีละครั้งและเมื่อใดที่

·        มีความเสี่ยงใหม่ๆเกิดขึ้น (เช่น มีการตีพิมพ์เผยแพร่ ภัยคุกคาม หรือ มีการระบุ)

·        เกิดอุบัติการณ์ขึ้น ,ทีเกี่ยวข้องกับ ความปลอดภัยผลิตภัณฑ์หรือการปกป้องอาหาร

4.2.2

Where raw materials or products are identified as being at particular risk, the threat assessment plan shall include controls to mitigate these risks. Where prevention is not sufficient or possible, systems shall be in place to identify any tampering.

These controls shall be monitored, the results documented, and the controls reviewed at least annually.

กรณีวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์ได้ถูกระบุว่ามีความเสี่ยงเฉพาะ แผนการประเมินภัยคุกคามต้องรวมถึงการควบคุมเพื่อบรรเทาความเสี่ยงเหล่านี้ เมื่อการป้องกันไม่เพียงพอ หรือเป็นไปได้ ระบบต้องมีอยู่เพื่อระบุการปลอมแปลงใดๆ

การควบคุมเหล่านี้ต้องได้รับการเฝ้าระวังติดตาม , ผลได้รับการบันทึกเป็นเอกสาร และการควบคุมต้องได้รับการทบทวนที่อย่างน้อยปีละครั้ง

4.2.3

Areas where a significant risk is identified shall be defined, monitored and controlled. These shall include external storage and intake points for products and raw materials (including packaging).

Policies and systems shall be in place to ensure that only authorised personnel have access to production and storage areas, and that access to the site by employees, contractors and visitors is controlled.

A visitor recording system shall be in place. Staff shall be trained in site security procedures and food defence.

พื้นที่ที่มีความเสี่ยงที่มีนัยยะที่ได้รับการระบุไว้ต้องได้รับการกำหนด,เฝ้าระวังติดตาม และได้รับการควบคุม เหล่านี้ต้องรวมถึงการจัดเก็บสโตร์ภายนอกและจุดรับเข้าสำหรับผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบ (รวมบรรจุภัณฑ์)

นโยบายและระบบต้องมีอยู่เพื่อให้แน่ใจว่า เฉพาะบุคลากรที่มีอำนาจหน้าที่ มีการถึงพื้นที่ผลิตและพื้นที่จัดเก็บ และการเข้าถึงสถานประกอบการโดยพนักงาน ผู้รับเหมา และผู้เยี่ยมชม ต้องได้รับการควบคุม

ระบบบันทึกผู้เยี่ยมชมต้องมีอยู่ จะอยู่ในสถานที่ พนักงานต้องได้รับการอบรมในกระบวนการความปลอดภัยสถานประกอบการและปกป้องอาหาร

4.2.4

Where required by legislation, the site shall maintain appropriate registrations with the relevant authorities.

เมื่อจำเป็นตามกฎหมาย สถานประกอบการต้องรักษาการขึ้นทะเบียนที่เหมาะสมกับหน่วยงานที่มีอำนาจที่เกี่ยวข้อง

 

วิธีการหรือกลยุทธ์ในการปกป้องอาหารที่นำมาใช้ได้

 

Management

การบริหารจัดการ

  • • Implement a check in/check out procedure at security or reception areas that includes verification of proper identification, screening equipment and relinquishment of prohibited items
  • • บังคับใช้ขั้นตอนการตรวจเข้า/ออกที่ประกอบด้วยการทวนสอบการพิสูจน์บุคคลที่เหมาะสม อุปกรณ์คัดกรองและการปลดวัตถุต้องห้าม ที่พื้นที่รักษาความปลอดภัยหรือพื้นที่ต้อนรับ
    • Implement a communication policy for emergencies including internal stakeholders, the press and the public
  • • บังคับใช้นโยบายการสื่อสารในกรณีฉุกเฉิน รวมถึงผู้ถือผลประโยชน์ร่วมภายใน สื่อมวลชนและสาธารณชน
    • Implement a food defense plan and periodically reassess the plan to keep it up to date
  • • บังคับใช้แผนการปกป้องอาหาร และทำการประเมินแผนซ้ำเป็นระยะๆเพื่อทำให้แผนมีความทันสมัยอยู่เสมอ
    • Implement a human resources policy that includes vetting candidates prior to hiring
  • • บังคับใช้นโยบายด้านทรัพยากรมนุษย์ที่มีการคัดกรองผู้สมัครงานก่อนการจ้างงาน
    • Implement a policy for employee resignation or termination that includes the relinquishment of all items used for access to the building including badges, keys, codes, uniforms, etc.
  • • บังคับใช้นโยบายการลาออกหรือการสิ้นสุดการจ้างงานที่ระบุถึงการขอคืนอุปกรณ์สิ่งของทั้งหมดที่ใช้สำหรับการเข้าถึงอาคาร ซึ่งประกอบด้วยเครื่องหมาย กุญแจ รหัส เครื่องแบบ ฯลฯ
    • Implement a policy for handling suspect persons, items and events including changes in employee health or behavior
  • • บังคับใช้นโยบายสำหรับการจัดการบุคคล สิ่งของและเหตุการณ์ต้องสงสัย รวมถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับสุขภาพหรือพฤติกรรมของพนักงาน
    • Implement a policy for increasing security measures during elevated threat/risk levels
  • • บังคับใช้นโยบายการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในระหว่างที่ระดับภัยคุกคาม/ความเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น
    • Implement a policy for protection of sensitive information (e.g., computers, food defense plans, schematics) and periodically modify instituted security measures such as passwords, keys, access cards, and codes
  • • บังคับใช้นโยบายสำหรับการปกป้องข้อมูลที่อ่อนไหว (เช่น คอมพิวเตอร์ แผนการปกป้องอาหาร แผนผัง) และปรับเปลี่ยนมาตรการรักษาความปลอดภัยที่จัดทำขึ้นเป็นระยะๆ เช่น รหัสผ่าน กุญแจ บัตรผ่าน และรหัส
    • Implement a policy for random security checks of personnel, equipment and processes
  • • บังคับใช้นโยบายสำหรับการตรวจสอบการรักษาความปลอดภัยแบบสุ่มสำหรับบุคลากร อุปกรณ์และกระบวนการ
    • Implement a policy for supplier requirements including auditing suppliers and service contractors and maintaining updated lists of acceptable suppliers and service contractors
  • • บังคับใช้นโยบายที่เกี่ยวข้องข้อกำหนดสำหรับผู้จัดหาวัตถุดิบ ที่ประกอบด้วยการตรวจประเมินผู้จัดหาวัตถุดิบและผู้รับเหมาการบริการ และคอยปรับปรุงรายชื่อผู้จัดหาวัตถุดิบและผู้รับเหมาการบริการที่ได้รับการยอมรับให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ
    • Implement a policy for updating and maintaining accurate records (e.g., personnel files, training records, food defense plan documentation, emergency response contacts)
  • • บังคับใช้นโยบายการปรับปรุงและการดูแลรักษาบันทึกที่ถูกต้อง (เช่น แฟ้มเอกสารพนักงาน บันทึกการฝึกอบรม เอกสารแผนการปกป้องอาหาร ข้อมูลติดต่อเพื่อรับมือเหตุฉุกเฉิน)
    • Implement a policy to prohibit employees from removing from the premises company-provided gear that could be used to gain unauthorized entry into the facility
  • • บังคับใช้นโยบายที่ห้ามมิให้พนักงานนำอุปกรณ์ที่บริษัทจัดหาให้ออกจากสถานที่ ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวสามารถนำไปใช้เข้าถึงพื้นที่ที่มิได้รับอนุญาต
    • Implement a policy to prohibit personal items from production, storage or other restricted areas
  • • บังคับใช้นโยบายที่ห้ามมิให้นำสิ่งของส่วนตัวเข้าไปในพื้นที่การผลิต พื้นที่จัดเก็บ หรือพื้นที่หวงห้ามอื่นๆ
    • Implement an inventory management system for products, ingredients, materials, and chemicals or potential contaminants
  • • บังคับใช้ระบบการบริหารจัดการสินค้าคงคลังสำหรับผลิตภัณฑ์ ส่วนผสม วัสดุ และสารเคมีหรือสารที่อาจจะเป็นสิ่งปนเปื้อน
    • Implement emergency response procedures including preventing security breaches during evacuation
  • • บังคับใช้ขั้นตอนรับมือเหตุฉุกเฉิน รวมถึงการป้องกันการละเมิดการรักษาความปลอดภัยในระหว่างอพยพ
    • Keep current on food defense-related industry news, regulations, customer requirements
  • • คอยรับข้อมูลข่าวทางอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับการปกป้องอาหาร ระเบียบข้อบังคับ ข้อกำหนดของลูกค้า
    • Maintain an up-to-date list of emergency contacts for food defense events and make it available to personnel
  • • ปรับปรุงรายชื่อข้อมูลติดต่อในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินสำหรับเหตุการณ์ด้านการปกป้องอาหารให้เป็นปัจจุบัน และเผยแพร่ให้พนักงานทราบ
    • Train appropriate personnel on proper implementation of the food defense plan and conduct periodic retraining at appropriate intervals or when changes have been made
  • • ฝึกอบรมบุคลากรที่เหมาะสมในเรื่องการบังคับใช้แผนการปกป้องอาหารและทำการฝึกอบรมซ้ำเป็นระยะๆในช่วงเวลาที่เหมาะสม หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
    • Train personnel on food defense awareness and conduct periodic retraining
  • • ฝึกอบรมบุคลากรเกี่ยวกับการตระหนักถึงการปกป้องอาหาร และทำการฝึกอบรมซ้ำเป็นระยะๆ
    • Train personnel to recognize and report suspect items or events to the appropriate contacts and conduct periodic retraining
  • • ฝึกอบรมพนักงานเพื่อให้รับรู้และรายงานสิ่งของหรือเหตุการณ์ที่ต้องสงสัยไปยังบุคคลที่เหมาะสม และทำการฝึกอบรมซ้ำเป็นระยะๆ

Facilities

สิ่งอำนวยความสะดวก

  • • Designate parking areas for personnel and visitors, and distinguish vehicles using parking decals or other identification
  • • กำหนดพื้นที่จอดรถสำหรับบุคลากรและผู้เยี่ยมชม และจำแนกยานพาหนะโดยใช้รูปลอกติดที่จอดรถหรือการระบุอื่นๆ
    • Implement a check in/check out procedure at security or reception areas that includes verification of proper identification, screening equipment and relinquishment of prohibited items
  • • บังคับใช้ขั้นตอนการตรวจเข้า/ออกที่ประกอบด้วยการทวนสอบการพิสูจน์บุคคลที่เหมาะสม อุปกรณ์คัดกรองและการปลดวัตถุต้องห้ามที่พื้นที่รักษาความปลอดภัยหรือพื้นที่ต้อนรับ
    • Implement a policy for acceptance of goods, mail, and packages that includes proper documentation review, screening procedures and chain-of-custody when appropriate
  • • บังคับใช้นโยบายการรับสินค้า จดหมาย และพัสดุที่ระบุการทบทวนเอกสารอย่างเหมาะสม ขั้นตอนการคัดกรองและห่วงโซ่การคุ้มครองพยานหลักฐานในกรณีที่เหมาะสม
    • Implement a policy for driver check-in and vehicle documentation review
  • • บังคับใช้นโยบายการรายงานตัวของคนขับรถ และการทบทวนเอกสารยานพาหนะ
    • Implement a policy for handling suspect persons, items and events including changes in employee health or behavior
  • • บังคับใช้นโยบายสำหรับการจัดการบุคคล สิ่งของและเหตุการณ์ต้องสงสัย รวมถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับสุขภาพหรือพฤติกรรมของพนักงาน
    • Implement a policy for increasing security measures during elevated threat/risk levels
  • • บังคับใช้นโยบายการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในระหว่างที่ระดับภัยคุกคาม/ความเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น
    • Implement a policy for protection of sensitive information (e.g., computers, food defense plans, schematics) and periodically modify instituted security measures such as passwords, keys, access cards, and codes
  • • บังคับใช้นโยบายสำหรับการปกป้องข้อมูลที่อ่อนไหว (เช่น คอมพิวเตอร์ แผนการปกป้องอาหาร แผนผัง) และปรับเปลี่ยนมาตรการรักษาความปลอดภัยที่จัดทำขึ้นเป็นระยะๆ เช่น รหัสผ่าน กุญแจ บัตรผ่าน และรหัส
    • Implement a policy for random security checks of personnel, equipment and processes
  • • บังคับใช้นโยบายสำหรับการตรวจสอบการรักษาความปลอดภัยแบบสุ่มสำหรับบุคลากร อุปกรณ์และกระบวนการ
    • Implement a policy for scheduling deliveries, maintenance and service
  • • บังคับใช้นโยบายการจัดตารางการส่งมอบ การซ่อมบำรุงและการบริการ
    • Implement a policy for updating and maintaining accurate records (e.g., personnel files, training records, food defense plan documentation, emergency response contacts)
  • • บังคับใช้นโยบายการปรับปรุงและการดูแลรักษาบันทึกที่ถูกต้อง (เช่น แฟ้มเอกสารพนักงาน บันทึกการฝึกอบรม เอกสารแผนการปกป้องอาหาร ข้อมูลติดต่อเพื่อรับมือเหตุฉุกเฉิน)
    • Implement a policy to prohibit employees from removing from the premises company-provided gear that could be used to gain unauthorized entry into the facility
  • • บังคับใช้นโยบายที่ห้ามมิให้พนักงานนำอุปกรณ์ที่บริษัทจัดหาให้ออกจากสถานที่ ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวสามารถนำไปใช้เข้าถึงพื้นที่ที่มิได้รับอนุญาต
    • Implement a policy to prohibit personal items from production, storage or other restricted areas
  • • บังคับใช้นโยบายที่ห้ามมิให้นำสิ่งของส่วนตัวเข้าไปในพื้นที่การผลิต พื้นที่จัดเก็บ หรือพื้นที่หวงห้ามอื่นๆ
    • Implement a policy to restrict access to locations, equipment and operations and periodically modify instituted security measures such as passwords, keys, access cards, and codes
  • • บังคับใช้นโยบายในการจำกัดการเข้าถึงสถานที่ อุปกรณ์และการปฏิบัติงาน และปรับเปลี่ยนมาตรการรักษาความปลอดภัยที่จัดทำขึ้นเป็นระยะๆ เช่น รหัสผ่าน กุญแจ บัตรผ่าน และรหัส
    • Implement a visitor policy which requires proper identification, escorts and adherence to rules regarding restricted access
  • • บังคับใช้นโยบายสำหรับผู้เยี่ยมชมที่มีการกำหนดการพิสูจน์บุคคลที่เหมาะสม การมีผู้ติดตามและการปฏิบัติตามกฏที่เกี่ยวกับการเข้าถึงพื้นที่หวงห้าม
    • Implement an inventory management system for products, ingredients, materials, and chemicals or potential contaminants
  • • บังคับใช้ระบบการบริหารจัดการสินค้าคงคลังสำหรับผลิตภัณฑ์ ส่วนผสม วัสดุ และสารเคมีหรือสารที่อาจจะเป็นสิ่งปนเปื้อน
    • Implement emergency response procedures including preventing security breaches during evacuation
  • • บังคับใช้ขั้นตอนรับมือเหตุฉุกเฉิน รวมถึงการป้องกันการละเมิดการรักษาความปลอดภัยในระหว่างอพยพ
    • Maximize visibility of perimeters, entry/exit points, locations and operations (e.g., light adequately, install windows, remove visual obstructions)
  • • เพิ่มความสามารถในการมองเห็นของแนวอาณาเขต จุดเข้า/ออก สถานที่และการปฏิบัติงานให้สูงที่สุด (เช่น แสงสว่างเพียงพอ ติดตั้งหน้าต่าง นำสิ่งกีดขวางสายตาออก)
    • Minimize the number of access points to your facility
  • • ลดจำนวนจุดเข้าถึงพื้นที่ของคุณให้เหลือน้อยที่สุด
    • Secure water, air and gas supplies and supply lines
  • • ดูแลการจ่ายน้ำ อากาศและแก๊ส รวมถึงสายการจ่ายให้ปลอดภัย
    • Use locks, fencing, gates or other physical barriers at perimeters, entry/exit points, locations and operations to restrict access
  • • ใช้ตัวล็อค รั้ว ประตูหรือสิ่งกีดขวางทางกายภาพอื่นๆที่แนวอาณาเขต จุดเข้า/ออก สถานที่และการปฏิบัติงานเพื่อจำกัดการเข้าถึง
    • Use personnel (e.g., guards, supervisors, trusted employees) to monitor perimeters, entry/exit points, locations and operations
  • • ใช้บุคลากร (เช่น ยาม หัวหน้างาน พนักงานที่ไว้ใจได้) ในการตรวจสอบแนวอาณาเขต จุดเข้า/ออก สถานที่และการปฏิบัติงาน
    • Use signage at perimeters, entry/exit points, locations and operations to designate restricted areas
  • • ติดตั้งป้ายที่แนวอาณาเขต จุดเขา/ออก สถานที่และการปฏิบัติงาน เพื่อกำหนดพื้นที่หวงห้าม
    • Use surveillance equipment (e.g., cameras) and/or alarms to monitor perimeters, entry/exit points, locations and operations
  • • ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับตรวจเฝ้าระวัง (เช่น กล้อง) และ/หรือสัญญาเตือนเพื่อตรวจสอบแนวอาณาเขต จุดเข้า/ออก สถานที่และการปฏิบัติงาน

Personnel

บุคลากร


  • • Implement a check in/check out procedure at security or reception areas that includes verification of proper identification, screening equipment and relinquishment of prohibited items
  • • บังคับใช้ขั้นตอนการตรวจเข้า/ออกที่ประกอบด้วยการทวนสอบการพิสูจน์บุคคลที่เหมาะสม อุปกรณ์คัดกรองและการปลดวัตถุต้องห้ามที่พื้นที่รักษาความปลอดภัยหรือพื้นที่ต้อนรับ
    • Implement a human resources policy that includes vetting candidates prior to hiring
  • • บังคับใช้นโยบายด้านทรัพยากรมนุษย์ที่มีการคัดกรองผู้สมัครงานก่อนการจ้างงาน
    • Implement a policy for employee resignation or termination that includes the relinquishment of all items used for access to the building including badges, keys, codes, uniforms, etc.
  • • บังคับใช้นโยบายการลาออกหรือการสิ้นสุดการจ้างงานที่ระบุถึงการขอคืนอุปกรณ์สิ่งของทั้งหมดที่ใช้สำหรับการเข้าถึงอาคาร ซึ่งประกอบด้วยเครื่องหมาย กุญแจ รหัส เครื่องแบบ ฯลฯ
    • Implement a policy for handling suspect persons, items and events including changes in employee health or behavior
  • • บังคับใช้นโยบายสำหรับการจัดการบุคคล สิ่งของและเหตุการณ์ต้องสงสัย รวมถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับสุขภาพหรือพฤติกรรมของพนักงาน
    • Implement a policy for protection of sensitive information (e.g., computers, food defense plans, schematics) and periodically modify instituted security measures such as passwords, keys, access cards, and codes
  • • บังคับใช้นโยบายสำหรับการปกป้องข้อมูลที่อ่อนไหว (เช่น คอมพิวเตอร์ แผนการปกป้องอาหาร แผนผัง) และปรับเปลี่ยนมาตรการรักษาความปลอดภัยที่จัดทำขึ้นเป็นระยะๆ เช่น รหัสผ่าน กุญแจ บัตรผ่าน และรหัส
    • Implement a policy for random security checks of personnel, equipment and processes
  • • บังคับใช้นโยบายสำหรับการตรวจสอบการรักษาความปลอดภัยแบบสุ่มสำหรับบุคลากร อุปกรณ์และกระบวนการ
    • Implement a policy for updating and maintaining accurate records (e.g., personnel files, training records, food defense plan documentation, emergency response contacts)
  • • บังคับใช้นโยบายการปรับปรุงและการดูแลรักษาบันทึกที่ถูกต้อง (เช่น แฟ้มเอกสารพนักงาน บันทึกการฝึกอบรม เอกสารแผนการปกป้องอาหาร ข้อมูลติดต่อเพื่อรับมือเหตุฉุกเฉิน)
    • Implement a policy to prohibit employees from removing from the premises company-provided gear that could be used to gain unauthorized entry into the facility
  • • บังคับใช้นโยบายที่ห้ามมิให้พนักงานนำอุปกรณ์ที่บริษัทจัดหาให้ออกจากสถานที่ ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวสามารถนำไปใช้เข้าถึงพื้นที่ที่มิได้รับอนุญาต
    • Implement a policy to prohibit personal items from production, storage or other restricted areas
  • • บังคับใช้นโยบายที่ห้ามมิให้นำสิ่งของส่วนตัวเข้าไปในพื้นที่การผลิต พื้นที่จัดเก็บ หรือพื้นที่หวงห้ามอื่นๆ
    • Implement a visitor policy which requires proper identification, escorts and adherence to rules regarding restricted access
  • • บังคับใช้นโยบายสำหรับผู้เยี่ยมชมที่มีการกำหนดการพิสูจน์บุคคลที่เหมาะสม การมีผู้ติดตามและการปฏิบัติตามกฏที่เกี่ยวกับการเข้าถึงพื้นที่หวงห้าม
    • Implement an inventory management system for products, ingredients, materials, and chemicals or potential contaminants
  • • บังคับใช้ระบบการบริหารจัดการสินค้าคงคลังสำหรับผลิตภัณฑ์ ส่วนผสม วัสดุ และสารเคมีหรือสารที่อาจจะเป็นสิ่งปนเปื้อน
    • Implement emergency response procedures including preventing security breaches during evacuation
  • • บังคับใช้ขั้นตอนรับมือเหตุฉุกเฉิน รวมถึงการป้องกันการละเมิดการรักษาความปลอดภัยในระหว่างอพยพ
    • Maintain an up-to-date list of emergency contacts for food defense events and make it available to personnel
  • • ปรับปรุงรายชื่อข้อมูลติดต่อในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินสำหรับเหตุการณ์ด้านการปกป้องอาหารให้เป็นปัจจุบัน และเผยแพร่ให้พนักงานทราบ
    • Train appropriate personnel on proper implementation of the food defense plan and conduct periodic retraining at appropriate intervals or when changes have been made
  • • ฝึกอบรมบุคลากรที่เหมาะสมในเรื่องการบังคับใช้แผนการปกป้องอาหารและทำการฝึกอบรมซ้ำเป็นระยะๆในช่วงเวลาที่เหมาะสม หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
    • Train personnel on food defense awareness and conduct periodic retraining
  • • ฝึกอบรมบุคลากรเกี่ยวกับการตระหนักถึงการปกป้องอาหาร และทำการฝึกอบรมซ้ำเป็นระยะๆ
    • Train personnel to recognize and report suspect items or events to the appropriate contacts and conduct periodic retraining
  • • ฝึกอบรมพนักงานเพื่อให้รับรู้และรายงานสิ่งของหรือเหตุการณ์ที่ต้องสงสัยไปยังบุคคลที่เหมาะสม และทำการฝึกอบรมซ้ำเป็นระยะๆ
    • Use personnel (e.g., guards, supervisors, trusted employees) to monitor perimeters, entry/exit points, locations and operations
  • • ใช้บุคลากร (เช่น ยาม หัวหน้างาน พนักงานที่ไว้ใจได้) ในการตรวจสอบแนวอาณาเขต จุดเข้า/ออก สถานที่และการปฏิบัติงาน

Process (Blast Freezer , Chiller/Cooler, Cold Press , Cooling Tunnel, Freezer, Hydro-Cooler , Spray Cooler)

กระบวนการ (เครื่องแช่แข็งแบบรวดเร็ว, ช่องแช่เย็น/เครื่องทำความเย็น, การสกัดเย็น, อุโมงค์ทำความเย็น, เครื่องแช่แข็ง, เครื่องทำน้ำเย็น, เครื่องทำละอองน้ำเย็น)
• Accompany unauthorized persons (e.g., visitors, contractors, personnel) to restricted areas

  • • เดินติดตามบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าไปในพื้นที่หวงห้าม (เช่น ผู้เยี่ยมชม ผู้รับเหมา บุคลากร)
    • Clean / sanitize equipment and components periodically (e.g., immediately prior to use, after maintenance, when security devices are breached, following a suspect event)
  • • ทำความสะอาด/ฆ่าเชื้อโรคอุปกรณ์และส่วนประกอบเป็นระยะๆ (เช่น ในทันทีก่อนใช้งาน หลังจากซ่อมบำรุง เมื่ออุปกรณ์รักษาความปลอดภัยถูกทำให้เสียหาย หลังจากเหตุการณ์ที่ต้องสงสัย)
    • Clean / sanitize locations periodically (e.g., immediately prior to use, after maintenance, when security devices are breached, following a suspect event)
  • • ทำความสะอาด/ฆ่าเชื้อโรคสถานที่เป็นระยะๆ (เช่น ในทันทีก่อนใช้งาน หลังจากซ่อมบำรุง เมื่ออุปกรณ์รักษาความปลอดภัยถูกทำให้เสียหาย หลังจากเหตุการณ์ที่ต้องสงสัย)
    • Conduct periodic checks of packaging integrity (e.g., upon receipt and prior to use) including for packaged products, ingredients, and equipment components
  • • ทำการตรวจสอบความสมบูรณ์ของบรรจุภัณฑ์เป็นระยะๆ (เช่น เมื่อได้รับและก่อนใช้งาน) รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์ ส่วนผสม และส่วนประกอบของอุปกรณ์
    • Maximize visibility of operations, equipment, and locations (e.g., install windows, light adequately, keep area clear of visual obstructions)
  • • เพิ่มความสามารถในการมองเห็นการปฏิบัติงาน อุปกรณ์และสถานที่ให้สูงที่สุด (เช่น ติดตั้งหน้าต่าง แสงสว่างที่เพียงพอ ทำพื้นที่ให้ปราศจากสิ่งกีดขวางในการมองเห็น)
    • Restrict access to equipment and controls to authorized personnel
  • • จำกัดการเข้าถึงอุปกรณ์และการควบคุมไว้เฉพาะสำหรับบุคลากรที่ได้รับอนุญาต
    • Restrict access to ingredients and products to authorized personnel
  • • จำกัดการเข้าถึงส่วนผสมและผลิตภัณฑ์ไว้เฉพาะสำหรับบุคลากรที่ได้รับอนุญาต
    • Restrict access to location to authorized personnel
  • • จำกัดการเข้าถึงสถานที่ไว้เฉพาะสำหรับบุคลากรที่ได้รับอนุญาต
    • Restrict access to openings or access points (e.g., to bins, tanks, vats, ports/valves, conveyor belt, inspection points, system openings) to authorized personnel
  • • จำกัดการเข้าถึงช่องเปิดหรือจุดเข้าใช้งาน (เช่น ถังขยะ แท็งก์ ภาชนะขนาดใหญ่ ช่อง/วาล์ว สายพานลำเลียง จุดตรวจสอบ ช่องเปิดของระบบ) ไว้เฉพาะสำหรับบุคลากรที่ได้รับอนุญาต
    • Restrict operations to authorized personnel
  • • จำกัดการปฏิบัติงานไว้เฉพาะสำหรับบุคลากรที่ได้รับอนุญาต
    • Use Clean in Place (CIP) equipment and prescribed CIP procedures (e.g., pre-rinse, wash, post-rinse, drain, and sanitize)
  • • ใช้งานอุปกรณ์แบบทำความสะอาดโดยต้องไม่ถอดชิ้นส่วน (CIP) และขั้นตอนการทำความสะอาดแบบไม่ถอดชิ้นส่วนที่แนะนำ (เช่น ล้างด้วยน้ำก่อน ล้าง ล้างด้วยน้ำอีกครั้ง ระบายน้ำ และฆ่าเชื้อโรค)
    • Use an alarm system to alert access breaches to location, equipment, controls, and coverings for openings or access points (e.g., motion, infrared)
  • • ใช้ระบบสัญญาณเตือนเพื่อแจ้งเตือนเมื่อมีการฝ่าฝืนการจำกัดการเข้าถึงสถานที่ อุปกรณ์ การควบคุม และสิ่งคุ้มกันสำหรับช่องเปิดหรือจุดเข้าใช้งาน (เช่น การเคลื่อนไหว, อินฟราเรด)
    • Use an alarm system to monitor and detect suspect events
  • • ใช้งานระบบสัญญาณเตือนเพื่อตรวจสอบและตรวจจับเหตุการณ์ที่น่าสงสัย
    • Use automated equipment (e.g., for dispensing, injection, incorporating, packing) to restrict access to product
  • • ใช้อุปกรณ์อัตโนมัติ (เช่น เพื่อการจ่าย การฉีด การผสม การบรรจุ) เพื่อจำกัดการเข้าถึงผลิตภัณฑ์
    • Use closed systems (e.g., in-line, self-contained, sealed) for operations
  • • ใช้ระบบแบบปิดสำหรับการปฏิบัติงาน (เช่น ในสายการผลิต พึ่งพาตัวเอง ปิดมิดชิด)
    • Use coverings to secure openings, access points and open systems/operations (e.g., shrouds, covers, lids, panels, seals) to restrict access to product
  • • ใช้สิ่งคุ้มกันเพื่อป้องกันช่องเปิด จุดเข้าใช้งานและ ระบบ/การปฏิบัติงานแบบเปิด (เช่น ผ้าคลุม ที่ครอบ ฝาปิด แผงกัน การปิดผนึก) เพื่อจำกัดการเข้าถึงผลิตภัณฑ์
    • Use electronic access control system to restrict access to location and/or controls (e.g., cipher lock, swipe cards, biometric devices, RFID)
  • • ใช้ระบบควบคุมการเข้าถึงแบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อจำกัดการเข้าถึงสถานที่และ/หรือการควบคุม (เช่น ตัวล็อคแบบมีรหัส บัตรรูด อุปกรณ์ไบโอเมตริกซ์ RFID)
    • Use isolation or separation to secure items, operations, equipment (e.g., locate away from other items and operations)
  • • ใช้การแยกหรือการแบ่งแยกเพื่อปกป้องสิ่งของ การปฏิบัติงาน อุปกรณ์ (เช่น จัดวางให้ห่างจากสิ่งของและการปฏิบัติงานอื่นๆ)
    • Use locks to secure location, equipment, and controls when not in use or unattended (e.g., use tamper-proof containers, locks, gear locks, remove keys)
  • • ใช้ตัวล็อคเพื่อปกป้องสถานที่ อุปกรณ์และการควบคุม เมื่อไม่ได้ใช้งานหรือไม่ได้ให้ความสนใจ (เช่น ภาชนะป้องกันการงัดแงะ ตัวล็อค ตัวล็อคเฟือง การถอดกุญแจออก)
    • Use one-way valves to restrict access to product
  • • ใช้วาล์วแบบทางเดียวเพื่อจำกัดการเข้าถึงผลิตภัณฑ์
    • Use peer monitoring (e.g., buddy system) during operations or in assigned locations
  • • ใช้การตรวจสอบร่วมกัน (peer monitoring) (เช่น ระบบบัดดี้) ในระหว่างการปฏิบัติงานหรือในสถานที่ที่กำหนด
    • Use personnel (e.g., guards, supervisors, trusted employees) for visual observation at restricted locations and operations
  • • ใช้งานบุคลากร (เช่น ยาม หัวหน้างาน พนักงานที่ไว้ใจได้) ให้คอยสังเกตการณ์สถานที่และการปฏิบัติงานที่หวงห้ามด้วยสายตา
    • Use personnel identification (e.g., color coded uniforms, badges) to restrict access to location, equipment, control, and operations
  • • ใช้การพิสูจน์รูปพรรณของบุคลากร (เช่น เครื่องแบบรหัสสี เครื่องหมาย) ในการจำกัดการเข้าถึงสถานที่ อุปกรณ์ การควบคุมและการปฏิบัติงาน
    • Use physical barriers to restrict access to location, operations, and equipment (e.g., locate in secure room, enclose with a fence, cage, gate, restricted-access ladders, wall, or panel)
  • • ใช้สิ่งกีดขวางทางกายภาพเพื่อจำกัดการเข้าถึงสถานที่ การปฏิบัติงานและอุปกรณ์ (เช่น จัดวางในพื้นที่ที่ปลอดภัย ปิดล้อมด้วยรั้ว กรง ประตูรั้ว บันไดที่จำกัดการเข้าถึง กำแพงหรือแผงกั้น)
    • Use surveillance equipment to monitor locations and operations
  • • ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับตรวจเฝ้าระวังเพื่อตรวจสอบสถานที่และการปฏิบัติงาน
    • Use tamper-evident devices (e.g., seals, covers, locks) to secure openings, access points, equipment and components
  • • ใช้อุปกรณ์บ่งชี้ร่องรอยการบุกรุก (เช่น ที่ปิดผนึก ฝาปิด ตัวล็อค) เพื่อปกป้องช่องเปิด จุดเข้าใช้งาน อุปกรณ์และส่วนประกอบ
    • Use tamper-evident devices (e.g., seals, covers, locks) to secure packaging and storage containers
  • • ใช้อุปกรณ์บ่งชี้ร่องรอยการบุกรุก (เช่น ที่ปิดผนึก ฝาปิด ตัวล็อค) เพื่อปกป้องบรรจุภัณฑ์และภาชนะสำหรับจัดเก็บ
    • Visually inspect equipment, equipment components, and supplies prior to use and report anomalies
  • • ตรวจสอบอุปกรณ์ ส่วนประกอบอุปกรณ์ และวัสดุต่างๆด้วยสายตาก่อนใช้งาน และทำการรายงานสิ่งผิดปกติ

Packing Material

วัสดุบรรจุภัณฑ์


  • • Accompany unauthorized persons (e.g., visitors, contractors, personnel) to restricted areas
  • • เดินติดตามบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าไปในพื้นที่หวงห้าม (เช่น ผู้เยี่ยมชม ผู้รับเหมา บุคลากร)
    • Clean / sanitize equipment and components periodically (e.g., immediately prior to use, after maintenance, when security devices are breached, following a suspect event)
  • • ทำความสะอาด/ฆ่าเชื้อโรคอุปกรณ์และส่วนประกอบเป็นระยะๆ (เช่น ในทันทีก่อนใช้งาน หลังจากซ่อมบำรุง เมื่ออุปกรณ์รักษาความปลอดภัยถูกทำให้เสียหาย หลังจากเหตุการณ์ที่ต้องสงสัย)
    • Maximize visibility of operations, equipment, and locations (e.g., install windows, light adequately, keep area clear of visual obstructions)
  • • เพิ่มความสามารถในการมองเห็นการปฏิบัติงาน อุปกรณ์และสถานที่ให้สูงที่สุด (เช่น ติดตั้งหน้าต่าง แสงสว่างที่เพียงพอ ทำพื้นที่ให้ปราศจากสิ่งกีดขวางในการมองเห็น)
    • Reduce the amount of product and supplies present or accessible at one time to reduce the impact of contamination
  • • ลดจำนวนผลิตภัณฑ์และวัสดุที่มีหรือที่สามารถเข้าถึงได้ในแต่ละครั้ง เพื่อลดผลกระทบจากการปนเปื้อน
    • Restrict access to equipment and controls to authorized personnel
  • • จำกัดการเข้าถึงอุปกรณ์และการควบคุมไว้เฉพาะสำหรับบุคลากรที่ได้รับอนุญาต
    • Restrict access to ingredients and products to authorized personnel
  • • จำกัดการเข้าถึงส่วนผสมและผลิตภัณฑ์ไว้เฉพาะสำหรับบุคลากรที่ได้รับอนุญาต
    • Restrict access to location to authorized personnel
  • • จำกัดการเข้าถึงสถานที่ไว้เฉพาะสำหรับบุคลากรที่ได้รับอนุญาต
    • Restrict access to supplies to authorized personnel (e.g., containers/tanks/sacks, packaging, coverings, trays, pads, wrappings, uniforms, gloves)
  • • จำกัดการเข้าถึงวัสดุไว้เฉพาะสำหรับบุคลากรที่ได้รับอนุญาต (เช่น ภาชนะ/แท็งก์/ถุง, บรรจุภัณฑ์ สิ่งคุ้มกัน ถาด ที่รอง สิ่งห่อหุ้ม เครื่องแบบ ถุงมือ)
    • Restrict operations to authorized personnel
  • • จำกัดการปฏิบัติงานไว้เฉพาะสำหรับบุคลากรที่ได้รับอนุญาต
    • Store supplies (e.g., containers/tanks/sacks, packaging, coverings, trays, pads, wrappings, uniforms, gloves) in a secured location
  • • จัดเก็บวัสดุต่างๆ (เช่น ภาชนะ/แท็งก์/ถุง, บรรจุภัณฑ์ สิ่งคุ้มกัน ถาด ที่รอง สิ่งห่อหุ้ม เครื่องแบบ ถุงมือ) ในสถานที่ปลอดภัย
    • Use an alarm system to alert access breaches to location, equipment, controls, and coverings for openings or access points (e.g., motion, infrared)
  • • ใช้ระบบสัญญาณเตือนเพื่อแจ้งเตือนเมื่อมีการฝ่าฝืนการจำกัดการเข้าถึงสถานที่ อุปกรณ์ การควบคุม และครอบคลุมสำหรับช่องเปิดหรือจุดเข้าใช้งาน (เช่น การเคลื่อนไหว, อินฟราเรด)
    • Use electronic access control system to restrict access to location and/or controls (e.g., cipher lock, swipe cards, biometric devices, RFID)
  • • ใช้ระบบควบคุมการเข้าถึงแบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อจำกัดการเข้าถึงสถานที่และ/หรือการควบคุม (เช่น ตัวล็อคแบบมีรหัส บัตรรูด อุปกรณ์ไบโอเมตริกซ์ RFID)
    • Use isolation or separation to secure items, operations, equipment (e.g., locate away from other items and operations)
  • • ใช้การแยกหรือการแบ่งแยกเพื่อปกป้องสิ่งของ การปฏิบัติงาน อุปกรณ์ (เช่น จัดวางให้ห่างจากสิ่งของและการปฏิบัติงานอื่นๆ)
    • Use locks to secure location, equipment, and controls when not in use or unattended (e.g., use tamper-proof containers, locks, gear locks, remove keys)
  • • ใช้ตัวล็อคเพื่อปกป้องสถานที่ อุปกรณ์และการควบคุม เมื่อไม่ได้ใช้งานหรือไม่ได้ให้ความสนใจ (เช่น ภาชนะป้องกันการงัดแงะ ตัวล็อค ตัวล็อคเฟือง การถอดกุญแจออก)
    • Use peer monitoring (e.g., buddy system) during operations or in assigned locations
  • • ใช้การตรวจสอบร่วมกัน (peer monitoring) (เช่น ระบบบัดดี้) ในระหว่างการปฏิบัติงานหรือในสถานที่ที่กำหนด
    • Use personnel (e.g., guards, supervisors, trusted employees) for visual observation at restricted locations and operations
  • • ใช้งานบุคลากร (เช่น ยาม หัวหน้างาน พนักงานที่ไว้ใจได้) ให้คอยสังเกตการณ์สถานที่และการปฏิบัติงานที่หวงห้ามด้วยสายตา
    • Use personnel identification (e.g., color coded uniforms, badges) to restrict access to location, equipment, control, and operations
  • • ใช้การพิสูจน์รูปพรรณของบุคลากร (เช่น เครื่องแบบรหัสสี เครื่องหมาย) ในการจำกัดการเข้าถึงสถานที่ อุปกรณ์ การควบคุมและการปฏิบัติงาน
    • Use physical barriers to restrict access to location, operations, and equipment (e.g., locate in secure room, enclose with a fence, cage, gate, restricted-access ladders, wall, or panel)
  • • ใช้สิ่งกีดขวางทางกายภาพเพื่อจำกัดการเข้าถึงสถานที่ การปฏิบัติงานและอุปกรณ์ (เช่น จัดวางในพื้นที่ที่ปลอดภัย ปิดล้อมด้วยรั้ว กรง ประตูรั้ว บันไดที่จำกัดการเข้าถึง กำแพงหรือแผงกั้น)
    • Use secure packaging (e.g., self-voiding tape, shrink wrapped pallets, tamper-evident packaging)
  • • ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัย (เช่น เทปป้องกันการเปิด พาเลทที่มีกันพันห่อหุ้ม บรรจุภัณฑ์แบบบ่งชี้ร่องรอยการเปิด)
    • Use surveillance equipment to monitor locations and operations
  • • ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับตรวจเฝ้าระวังเพื่อตรวจสอบสถานที่และการปฏิบัติงาน
    • Visually inspect equipment, equipment components, and supplies prior to use and report anomalies
  • • ตรวจสอบอุปกรณ์ ส่วนประกอบอุปกรณ์ และวัสดุต่างๆด้วยสายตาก่อนใช้งาน และทำการรายงานสิ่งผิดปกติ

Packing Process

กระบวนการบรรจุ


  • • Accompany unauthorized persons (e.g., visitors, contractors, personnel) to restricted areas
  • • เดินติดตามบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าไปในพื้นที่หวงห้าม (เช่น ผู้เยี่ยมชม ผู้รับเหมา บุคลากร)
    • Clean / sanitize equipment and components periodically (e.g., immediately prior to use, after maintenance, when security devices are breached, following a suspect event)
  • • ทำความสะอาด/ฆ่าเชื้อโรคอุปกรณ์และส่วนประกอบเป็นระยะๆ (เช่น ในทันทีก่อนใช้งาน หลังจากซ่อมบำรุง เมื่ออุปกรณ์รักษาความปลอดภัยถูกทำให้เสียหาย หลังจากเหตุการณ์ที่ต้องสงสัย)
    • Clean / sanitize locations periodically (e.g., immediately prior to use, after maintenance, when security devices are breached, following a suspect event)
  • • ทำความสะอาด/ฆ่าเชื้อโรคสถานที่เป็นระยะๆ (เช่น ในทันทีก่อนใช้งาน หลังจากซ่อมบำรุง เมื่ออุปกรณ์รักษาความปลอดภัยถูกทำให้เสียหาย หลังจากเหตุการณ์ที่ต้องสงสัย)
    • Conduct periodic checks of packaging integrity (e.g., upon receipt and prior to use) including for packaged products, ingredients, and equipment components
  • • ทำการตรวจสอบความสมบูรณ์ของบรรจุภัณฑ์เป็นระยะๆ (เช่น เมื่อได้รับและก่อนใช้งาน) รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์ ส่วนผสม และส่วนประกอบของอุปกรณ์
    • Maximize visibility of operations, equipment, and locations (e.g., install windows, light adequately, keep area clear of visual obstructions)
  • • เพิ่มความสามารถในการมองเห็นการปฏิบัติงาน อุปกรณ์และสถานที่ให้สูงที่สุด (เช่น ติดตั้งหน้าต่าง แสงสว่างที่เพียงพอ ทำพื้นที่ให้ปราศจากสิ่งกีดขวางในการมองเห็น)
    • Reduce the amount of product and supplies present or accessible at one time to reduce the impact of contamination
  • • ลดจำนวนผลิตภัณฑ์และวัสดุที่มีหรือที่สามารถเข้าถึงได้ในแต่ละครั้ง เพื่อลดผลกระทบจากการปนเปื้อน
    • Restrict access to equipment and controls to authorized personnel
  • • จำกัดการเข้าถึงอุปกรณ์และการควบคุมไว้เฉพาะสำหรับบุคลากรที่ได้รับอนุญาต
    • Restrict access to ingredients and products to authorized personnel
  • • จำกัดการเข้าถึงส่วนผสมและผลิตภัณฑ์ไว้เฉพาะสำหรับบุคลากรที่ได้รับอนุญาต
    • Restrict access to location to authorized personnel
  • • จำกัดการเข้าถึงสถานที่ไว้เฉพาะสำหรับบุคลากรที่ได้รับอนุญาต
    • Restrict access to openings or access points (e.g., to bins, tanks, vats, ports/valves, conveyor belt, inspection points, system openings) to authorized personnel
  • • จำกัดการเข้าถึงช่องเปิดหรือจุดเข้าใช้งาน (เช่น ถังขยะ แท็งก์ ภาชนะขนาดใหญ่ ช่อง/วาล์ว สายพานลำเลียง จุดตรวจสอบ ช่องเปิดของระบบ) ไว้เฉพาะสำหรับบุคลากรที่ได้รับอนุญาต
    • Restrict operations to authorized personnel
  • • จำกัดการปฏิบัติงานไว้เฉพาะสำหรับบุคลากรที่ได้รับอนุญาต
    • Use Clean in Place (CIP) equipment and prescribed CIP procedures (e.g., pre-rinse, wash, post-rinse, drain, and sanitize)
  • • ใช้งานอุปกรณ์แบบทำความสะอาดโดยต้องไม่ถอดชิ้นส่วน (CIP) และขั้นตอนการทำความสะอาดแบบไม่ถอดชิ้นส่วนที่แนะนำ (เช่น ล้างด้วยน้ำก่อน ล้าง ล้างด้วยน้ำอีกครั้ง ระบายน้ำ และฆ่าเชื้อโรค)
    • Use an alarm system to alert access breaches to location, equipment, controls, and coverings for openings or access points (e.g., motion, infrared)
  • • ใช้ระบบสัญญาณเตือนเพื่อแจ้งเตือนเมื่อมีการฝ่าฝืนการจำกัดการเข้าถึงสถานที่ อุปกรณ์ การควบคุม และครอบคลุมสำหรับช่องเปิดหรือจุดเข้าใช้งาน (เช่น การเคลื่อนไหว, อินฟราเรด)
    • Use an alarm system to monitor and detect suspect events
  • • ใช้งานระบบสัญญาณเตือนเพื่อตรวจสอบและตรวจจับเหตุการณ์ที่น่าสงสัย
    • Use automated equipment (e.g., for dispensing, injection, incorporating, packing) to restrict access to product
  • • ใช้อุปกรณ์อัตโนมัติ (เช่น เพื่อการจ่าย การฉีด การผสม การบรรจุ) เพื่อจำกัดการเข้าถึงผลิตภัณฑ์
    • Use closed systems (e.g., in-line, self-contained, sealed) for operations
  • • ใช้ระบบแบบปิดสำหรับการปฏิบัติงาน (เช่น ในสายการผลิต พึ่งพาตัวเอง ปิดมิดชิด)
    • Use coverings to secure openings, access points and open systems/operations (e.g., shrouds, covers, lids, panels, seals) to restrict access to product
  • • ใช้สิ่งคุ้มกันเพื่อป้องกันช่องเปิด จุดเข้าใช้งานและ ระบบ/การปฏิบัติงานแบบเปิด (เช่น ผ้าคลุม ที่ครอบ ฝาปิด แผงกัน การปิดผนึก) เพื่อจำกัดการเข้าถึงผลิตภัณฑ์
    • Use electronic access control system to restrict access to location and/or controls (e.g., cipher lock, swipe cards, biometric devices, RFID)
  • • ใช้ระบบควบคุมการเข้าถึงแบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อจำกัดการเข้าถึงสถานที่และ/หรือการควบคุม (เช่น ตัวล็อคแบบมีรหัส บัตรรูด อุปกรณ์ไบโอเมตริกซ์ RFID)
    • Use isolation or separation to secure items, operations, equipment (e.g., locate away from other items and operations)
  • • ใช้การแยกหรือการแบ่งแยกเพื่อปกป้องสิ่งของ การปฏิบัติงาน อุปกรณ์ (เช่น จัดวางให้ห่างจากสิ่งของและการปฏิบัติงานอื่นๆ)
    • Use locks to secure location, equipment, and controls when not in use or unattended (e.g., use tamper-proof containers, locks, gear locks, remove keys)
  • • ใช้ตัวล็อคเพื่อปกป้องสถานที่ อุปกรณ์และการควบคุม เมื่อไม่ได้ใช้งานหรือไม่ได้ให้ความสนใจ (เช่น ภาชนะป้องกันการงัดแงะ ตัวล็อค ตัวล็อคเฟือง การถอดกุญแจออก)
    • Use peer monitoring (e.g., buddy system) during operations or in assigned locations
  • • ใช้การตรวจสอบร่วมกัน (peer monitoring) (เช่น ระบบบัดดี้) ในระหว่างการปฏิบัติงานหรือในสถานที่ที่กำหนด
    • Use personnel (e.g., guards, supervisors, trusted employees) for visual observation at restricted locations and operations
  • • ใช้งานบุคลากร (เช่น ยาม หัวหน้างาน พนักงานที่ไว้ใจได้) ให้คอยสังเกตการณ์สถานที่และการปฏิบัติงานที่หวงห้ามด้วยสายตา
    • Use personnel identification (e.g., color coded uniforms, badges) to restrict access to location, equipment, control, and operations
  • • ใช้การพิสูจน์รูปพรรณของบุคลากร (เช่น เครื่องแบบรหัสสี เครื่องหมาย) ในการจำกัดการเข้าถึงสถานที่ อุปกรณ์ การควบคุมและการปฏิบัติงาน
    • Use physical barriers to restrict access to location, operations, and equipment (e.g., locate in secure room, enclose with a fence, cage, gate, restricted-access ladders, wall, or panel)
  • • ใช้สิ่งกีดขวางทางกายภาพเพื่อจำกัดการเข้าถึงสถานที่ การปฏิบัติงานและอุปกรณ์ (เช่น จัดวางในพื้นที่ที่ปลอดภัย ปิดล้อมด้วยรั้ว กรง ประตูรั้ว บันไดที่จำกัดการเข้าถึง กำแพงหรือแผงกั้น)
    • Use secure packaging (e.g., self-voiding tape, shrink wrapped pallets, tamper-evident packaging)
  • • ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัย (เช่น เทปป้องกันการเปิด พาเลทที่มีกันพันห่อหุ้ม บรรจุภัณฑ์แบบบ่งชี้ร่องรอยการเปิด)
    • Use surveillance equipment to monitor locations and operations
  • • ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับตรวจเฝ้าระวังเพื่อตรวจสอบสถานที่และการปฏิบัติงาน
    • Use tamper-evident devices (e.g., seals, covers, locks) to secure openings, access points, equipment and components
  • • ใช้อุปกรณ์บ่งชี้ร่องรอยการบุกรุก (เช่น ที่ปิดผนึก ฝาปิด ตัวล็อค) เพื่อปกป้องช่องเปิด จุดเข้าใช้งาน อุปกรณ์และส่วนประกอบ
    • Use tamper-evident devices (e.g., seals, covers, locks) to secure packaging and storage containers
  • • ใช้อุปกรณ์บ่งชี้ร่องรอยการบุกรุก (เช่น ที่ปิดผนึก ฝาปิด ตัวล็อค) เพื่อปกป้องบรรจุภัณฑ์และภาชนะสำหรับจัดเก็บ
    • Visually inspect equipment, equipment components, and supplies prior to use and report anomalies
  • • ตรวจสอบอุปกรณ์ ส่วนประกอบอุปกรณ์ และวัสดุต่างๆด้วยสายตาก่อนใช้งาน และทำการรายงานสิ่งผิดปกติ

Warehouse

คลังสินค้า


  • • Accompany unauthorized persons (e.g., visitors, contractors, personnel) to restricted areas
  • • เดินติดตามบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าไปในพื้นที่หวงห้าม (เช่น ผู้เยี่ยมชม ผู้รับเหมา บุคลากร)
    • Clean / sanitize equipment and components periodically (e.g., immediately prior to use, after maintenance, when security devices are breached, following a suspect event)
  • • ทำความสะอาด/ฆ่าเชื้อโรคอุปกรณ์และส่วนประกอบเป็นระยะๆ (เช่น ในทันทีก่อนใช้งาน หลังจากซ่อมบำรุง เมื่ออุปกรณ์รักษาความปลอดภัยถูกทำให้เสียหาย หลังจากเหตุการณ์ที่ต้องสงสัย)
    • Clean / sanitize locations periodically (e.g., immediately prior to use, after maintenance, when security devices are breached, following a suspect event)
  • • ทำความสะอาด/ฆ่าเชื้อโรคสถานที่เป็นระยะๆ (เช่น ในทันทีก่อนใช้งาน หลังจากซ่อมบำรุง เมื่ออุปกรณ์รักษาความปลอดภัยถูกทำให้เสียหาย หลังจากเหตุการณ์ที่ต้องสงสัย)
    • Conduct periodic checks of packaging integrity (e.g., upon receipt and prior to use) including for packaged products, ingredients, and equipment components
  • • ทำการตรวจสอบความสมบูรณ์ของบรรจุภัณฑ์เป็นระยะๆ (เช่น เมื่อได้รับและก่อนใช้งาน) รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์ ส่วนผสม และส่วนประกอบของอุปกรณ์
    • Maximize visibility of operations, equipment, and locations (e.g., install windows, light adequately, keep area clear of visual obstructions)
  • • เพิ่มความสามารถในการมองเห็นการปฏิบัติงาน อุปกรณ์และสถานที่ให้สูงที่สุด (เช่น ติดตั้งหน้าต่าง แสงสว่างที่เพียงพอ ทำพื้นที่ให้ปราศจากสิ่งกีดขวางในการมองเห็น)
    • Reduce the amount of product and supplies present or accessible at one time to reduce the impact of contamination
  • • ลดจำนวนผลิตภัณฑ์และวัสดุที่มีหรือที่สามารถเข้าถึงได้ในแต่ละครั้ง เพื่อลดผลกระทบจากการปนเปื้อน
    • Restrict access to equipment and controls to authorized personnel
  • • จำกัดการเข้าถึงอุปกรณ์และการควบคุมไว้เฉพาะสำหรับบุคลากรที่ได้รับอนุญาต
    • Restrict access to ingredients and products to authorized personnel
  • • จำกัดการเข้าถึงส่วนผสมและผลิตภัณฑ์ไว้เฉพาะสำหรับบุคลากรที่ได้รับอนุญาต
    • Restrict access to location to authorized personnel
  • • จำกัดการเข้าถึงสถานที่ไว้เฉพาะสำหรับบุคลากรที่ได้รับอนุญาต
    • Restrict access to openings or access points (e.g., to bins, tanks, vats, ports/valves, conveyor belt, inspection points, system openings) to authorized personnel
  • • จำกัดการเข้าถึงช่องเปิดหรือจุดเข้าใช้งาน (เช่น ถังขยะ แท็งก์ ภาชนะขนาดใหญ่ ช่อง/วาล์ว สายพานลำเลียง จุดตรวจสอบ ช่องเปิดของระบบ) ไว้เฉพาะสำหรับบุคลากรที่ได้รับอนุญาต
    • Restrict operations to authorized personnel
  • • จำกัดการปฏิบัติงานไว้เฉพาะสำหรับบุคลากรที่ได้รับอนุญาต
    • Store equipment and components in a secured location
  • • จัดเก็บอุปกรณ์และส่วนประกอบในสถานที่ปลอดภัย
    • Store ingredients and products in a secured location
  • • จัดเก็บส่วนผสมและผลิตภัณฑ์ในสถานที่ปลอดภัย
    • Store potential contaminants (e.g., waste, chemicals, pesticides, cleaning supplies, laboratory cultures) in separate and secured location immediately upon receipt and after use
  • • จัดเก็บสารที่อาจจะเป็นสารปนเปื้อน (เช่น ของเสีย สายเคมี ยากำจัดศัตรูสัตว์และพืช วัสดุทำความสะอาด สารเพาะเชื้อในห้องปฏิบัติการ) ในสถานที่แยกต่างหากและปลอดภัยในทันทีเมื่อได้รับและหลังจากใช้งาน
    • Store supplies (e.g., containers/tanks/sacks, packaging, coverings, trays, pads, wrappings, uniforms, gloves) in a secured location
  • • จัดเก็บวัสดุต่างๆ (เช่น ภาชนะ/แท็งก์/ถุง, บรรจุภัณฑ์ สิ่งคุ้มกัน ถาด ที่รอง สิ่งห่อหุ้ม เครื่องแบบ ถุงมือ) ในสถานที่ปลอดภัย
    • Use an alarm system to alert access breaches to location, equipment, controls, and coverings for openings or access points (e.g., motion, infrared)
  • • ใช้ระบบสัญญาณเตือนเพื่อแจ้งเตือนเมื่อมีการฝ่าฝืนการจำกัดการเข้าถึงสถานที่ อุปกรณ์ การควบคุม และครอบคลุมสำหรับช่องเปิดหรือจุดเข้าใช้งาน (เช่น การเคลื่อนไหว, อินฟราเรด)
    • Use an alarm system to monitor and detect suspect events
  • • ใช้งานระบบสัญญาณเตือนเพื่อตรวจสอบและตรวจจับเหตุการณ์ที่น่าสงสัย
    • Use coverings to secure openings, access points and open systems/operations (e.g., shrouds, covers, lids, panels, seals) to restrict access to product
  • • ใช้สิ่งคุ้มกันเพื่อป้องกันช่องเปิด จุดเข้าใช้งานและ ระบบ/การปฏิบัติงานแบบเปิด (เช่น ผ้าคลุม ที่ครอบ ฝาปิด แผงกัน การปิดผนึก) เพื่อจำกัดการเข้าถึงผลิตภัณฑ์
    • Use electronic access control system to restrict access to location and/or controls (e.g., cipher lock, swipe cards, biometric devices, RFID)
  • • ใช้ระบบควบคุมการเข้าถึงแบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อจำกัดการเข้าถึงสถานที่และ/หรือการควบคุม (เช่น ตัวล็อคแบบมีรหัส บัตรรูด อุปกรณ์ไบโอเมตริกซ์ RFID)
    • Use isolation or separation to secure items, operations, equipment (e.g., locate away from other items and operations)
  • • ใช้การแยกหรือการแบ่งแยกเพื่อปกป้องสิ่งของ การปฏิบัติงาน อุปกรณ์ (เช่น จัดวางให้ห่างจากสิ่งของและการปฏิบัติงานอื่นๆ)
    • Use locks to secure location, equipment, and controls when not in use or unattended (e.g., use tamper-proof containers, locks, gear locks, remove keys)
  • • ใช้ตัวล็อคเพื่อปกป้องสถานที่ อุปกรณ์และการควบคุม เมื่อไม่ได้ใช้งานหรือไม่ได้ให้ความสนใจ (เช่น ภาชนะป้องกันการงัดแงะ ตัวล็อค ตัวล็อคเฟือง การถอดกุญแจออก)
    • Use peer monitoring (e.g., buddy system) during operations or in assigned locations
  • • ใช้การตรวจสอบร่วมกัน (peer monitoring) (เช่น ระบบบัดดี้) ในระหว่างการปฏิบัติงานหรือในสถานที่ที่กำหนด
    • Use personnel (e.g., guards, supervisors, trusted employees) for visual observation at restricted locations and operations
  • • ใช้งานบุคลากร (เช่น ยาม หัวหน้างาน พนักงานที่ไว้ใจได้) ให้คอยสังเกตการณ์สถานที่และการปฏิบัติงานที่หวงห้ามด้วยสายตา
    • Use personnel identification (e.g., color coded uniforms, badges) to restrict access to location, equipment, control, and operations
  • • ใช้การพิสูจน์รูปพรรณของบุคลากร (เช่น เครื่องแบบรหัสสี เครื่องหมาย) ในการจำกัดการเข้าถึงสถานที่ อุปกรณ์ การควบคุมและการปฏิบัติงาน
    • Use physical barriers to restrict access to location, operations, and equipment (e.g., locate in secure room, enclose with a fence, cage, gate, restricted-access ladders, wall, or panel)
  • • ใช้สิ่งกีดขวางทางกายภาพเพื่อจำกัดการเข้าถึงสถานที่ การปฏิบัติงานและอุปกรณ์ (เช่น จัดวางในพื้นที่ที่ปลอดภัย ปิดล้อมด้วยรั้ว กรง ประตูรั้ว บันไดที่จำกัดการเข้าถึง กำแพงหรือแผงกั้น)
    • Use surveillance equipment to monitor locations and operations
  • • ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับตรวจเฝ้าระวังเพื่อตรวจสอบสถานที่และการปฏิบัติงาน
    • Use tamper-evident devices (e.g., seals, covers, locks) to secure openings, access points, equipment and components
  • • ใช้อุปกรณ์บ่งชี้ร่องรอยการบุกรุก (เช่น ที่ปิดผนึก ฝาปิด ตัวล็อค) เพื่อปกป้องช่องเปิด จุดเข้าใช้งาน อุปกรณ์และส่วนประกอบ
    • Use tamper-evident devices (e.g., seals, covers, locks) to secure packaging and storage containers
  • • ใช้อุปกรณ์บ่งชี้ร่องรอยการบุกรุก (เช่น ที่ปิดผนึก ฝาปิด ตัวล็อค) เพื่อปกป้องบรรจุภัณฑ์และภาชนะสำหรับจัดเก็บ
    • Visually inspect equipment, equipment components, and supplies prior to use and report anomalies
  • • ตรวจสอบอุปกรณ์ ส่วนประกอบอุปกรณ์ และวัสดุต่างๆด้วยสายตาก่อนใช้งาน และทำการรายงานสิ่งผิดปกติ

Transport and distribution

การขนส่งและการกระจาย


  • • Accompany unauthorized persons (e.g., visitors, contractors, personnel) to restricted areas
  • • เดินติดตามบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าไปในพื้นที่หวงห้าม (เช่น ผู้เยี่ยมชม ผู้รับเหมา บุคลากร)
    • Clean / sanitize equipment and components periodically (e.g., immediately prior to use, after maintenance, when security devices are breached, following a suspect event)
  • • ทำความสะอาด/ฆ่าเชื้อโรคอุปกรณ์และส่วนประกอบเป็นระยะๆ (เช่น ในทันทีก่อนใช้งาน หลังจากซ่อมบำรุง เมื่ออุปกรณ์รักษาความปลอดภัยถูกทำให้เสียหาย หลังจากเหตุการณ์ที่ต้องสงสัย)
    • Clean / sanitize locations periodically (e.g., immediately prior to use, after maintenance, when security devices are breached, following a suspect event)
  • • ทำความสะอาด/ฆ่าเชื้อโรคสถานที่เป็นระยะๆ (เช่น ในทันทีก่อนใช้งาน หลังจากซ่อมบำรุง เมื่ออุปกรณ์รักษาความปลอดภัยถูกทำให้เสียหาย หลังจากเหตุการณ์ที่ต้องสงสัย)
    • Conduct periodic checks of both vehicle and products during transportation and prior to loading/unloading for suspect items (e.g., security measures not present or intact; product and packaging integrity compromised; abandoned, removed, or returned items; lacks proper identification; lacks proper documentation)
  • • ดำเนินการตรวจเช็คทั้งยานพาหนะและผลิตภัณฑ์เป็นระยะๆในระหว่างการขนส่งและก่อนขนถ่ายสิ่งของที่น่าสงสัยขึ้น/ลง (เช่น ไม่มีมาตรการการรักษาความปลอดภัยหรือไม่สมบูรณ์ ความสมบูรณ์ของผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ลดลง สิ่งของที่ถูกละทิ้ง กำจัดหรือส่งคืน ขาดการระบุที่เหมาะสม ขาดเอกสารที่เหมาะสม)
    • Keep one operator with transportation at all times (e.g., use relay operators, relief driver, peer-monitoring)
  • • ต้องมีผู้ดำเนินงานหนึ่งคนอยู่กับการขนส่งตลอดเวลา (เช่น ใช้ผู้ควบคุมรีเลย์, คนขับสำหรับเปลี่ยนเวร, การตรวจสอบร่วมกัน)
    • Maximize visibility of operations, equipment, and locations (e.g., install windows, light adequately, keep area clear of visual obstructions)
  • • เพิ่มความสามารถในการมองเห็นการปฏิบัติงาน อุปกรณ์และสถานที่ให้สูงที่สุด (เช่น ติดตั้งหน้าต่าง แสงสว่างที่เพียงพอ ทำพื้นที่ให้ปราศจากสิ่งกีดขวางในการมองเห็น)
    • Refuse delivery of suspect items (e.g., security measure not present or intact; product or packaging integrity compromised; schedule/protocol not followed; improper documentation or identification)
  • • ปฏิเสธการส่งมอบสิ่งของต้องสงสัย (เช่น ไม่มีมาตรการด้านความปลอดภัยหรือไม่สมบูรณ์ ความสมบูรณ์ของผลิตภัณฑ์หรือบรรจุภัณฑ์ลดลง ไม่ปฏิบัติตามกำหนดการ/ระเบียบการ เอกสารหรือการระบุไม่เหมาะสม)
    • Require driver check-ins
  • • กำหนดให้มีการรายงานตัวของคนขับรถ
    • Restrict access of drivers to specified locations
  • • จำกัดการเข้าถึงพื้นที่บางพื้นที่สำหรับคนขับรถ
    • Restrict access to equipment and controls to authorized personnel
  • • จำกัดการเข้าถึงอุปกรณ์และการควบคุมไว้เฉพาะสำหรับบุคลากรที่ได้รับอนุญาต
    • Restrict access to ingredients, products, and cargo to authorized personnel
  • • จำกัดการเข้าถึงส่วนผสม ผลิตภัณฑ์และของบรรทุกไว้เฉพาะสำหรับบุคลากรที่ได้รับอนุญาต
    • Restrict access to location to authorized personnel
  • • จำกัดการเข้าถึงสถานที่ไว้เฉพาะสำหรับบุคลากรที่ได้รับอนุญาต
    • Restrict access to openings or access points (e.g., to bins, tanks, vats, ports/valves, conveyor belt, inspection points, system openings) to authorized personnel
  • • จำกัดการเข้าถึงช่องเปิดหรือจุดเข้าใช้งาน (เช่น ถังขยะ แท็งก์ ภาชนะขนาดใหญ่ ช่อง/วาล์ว สายพานลำเลียง จุดตรวจสอบ ช่องเปิดของระบบ) ไว้เฉพาะสำหรับบุคลากรที่ได้รับอนุญาต
    • Restrict access to transport operations to authorized personnel
  • • จำกัดการเข้าถึงการปฏิบัติงานด้านการขนส่งไว้เฉพาะสำหรับบุคลากรที่ได้รับอนุญาต
    • Restrict operations to authorized personnel
  • • จำกัดการปฏิบัติงานไว้เฉพาะสำหรับบุคลากรที่ได้รับอนุญาต
    • Schedule deliveries (e.g., schedule departure/arrival time, driver identity, confirm on-time delivery, report schedule deviation)
  • • จัดตารางเวลาการส่งมอบ (เช่น ตารางเวลาการเข้า/ออก รูปพรรณของคนขับรถ ยืนยันการส่งมอบที่ตรงเวลา รายงานความคลาดเคลื่อนจากตารางเวลา)
    • Schedule deliveries using a dedicated trip procedure that schedules stops at well-lit and public locations, prohibits unscheduled/unattended stops, and requires reporting of unscheduled stops
  • • จัดตารางเวลาการส่งมอบโดยใช้ขั้นตอนการเดินทางแบบเฉพาะที่กำหนดจุดหยุดในพื้นที่สาธารณะที่มีแสงเพียงพอ ห้ามไม่ให้หยุดในจุดที่ไม่ได้กำหนด/จุดที่ไม่มีใครสนใจ และกำหนดให้ทำการรายงานการหยุดในจุดที่ไม่ได้กำหนดไว้
    • Use GPS/RFID (Radio Frequency Identification) or similar security measures to monitor transport
  • • ใช้ GPS/RFID (การระบุเอกลักษณ์ด้วยคลื่นวิทยุ) หรือมาตรการรักษาความปลอดภัยที่คล้ายกันเพื่อติดตามการขนส่ง
    • Use an alarm system to alert access breaches to location, equipment, controls, and coverings for openings or access points (e.g., motion, infrared)
  • • ใช้ระบบสัญญาณเตือนเพื่อแจ้งเตือนเมื่อมีการฝ่าฝืนการจำกัดการเข้าถึงสถานที่ อุปกรณ์ การควบคุม และครอบคลุมสำหรับช่องเปิดหรือจุดเข้าใช้งาน (เช่น การเคลื่อนไหว, อินฟราเรด)
    • Use an alarm system to monitor and detect suspect events
  • • ใช้งานระบบสัญญาณเตือนเพื่อตรวจสอบและตรวจจับเหตุการณ์ที่น่าสงสัย
    • Use coverings to secure openings, access points and open systems/operations (e.g., shrouds, covers, lids, panels, seals) to restrict access to product
  • • ใช้สิ่งคุ้มกันเพื่อป้องกันช่องเปิด จุดเข้าใช้งานและ ระบบ/การปฏิบัติงานแบบเปิด (เช่น ผ้าคลุม ที่ครอบ ฝาปิด แผงกัน การปิดผนึก) เพื่อจำกัดการเข้าถึงผลิตภัณฑ์
    • Use electronic access control system to restrict access to location and/or controls (e.g., cipher lock, swipe cards, biometric devices, RFID)
  • • ใช้ระบบควบคุมการเข้าถึงแบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อจำกัดการเข้าถึงสถานที่และ/หรือการควบคุม (เช่น ตัวล็อคแบบมีรหัส บัตรรูด อุปกรณ์ไบโอเมตริกซ์ RFID)
    • Use isolation or separation to secure items, operations, equipment (e.g., locate away from other items and operations)
  • • ใช้การแยกหรือการแบ่งแยกเพื่อปกป้องสิ่งของ การปฏิบัติงาน อุปกรณ์ (เช่น จัดวางให้ห่างจากสิ่งของและการปฏิบัติงานอื่นๆ)
    • Use locks to secure location, equipment, and controls when not in use or unattended (e.g., use tamper-proof containers, locks, gear locks, remove keys)
  • • ใช้ตัวล็อคเพื่อปกป้องสถานที่ อุปกรณ์และการควบคุม เมื่อไม่ได้ใช้งานหรือไม่ได้ให้ความสนใจ (เช่น ภาชนะป้องกันการงัดแงะ ตัวล็อค ตัวล็อคเฟือง การถอดกุญแจออก)
    • Use mobile surveillance equipment to monitor transport (e.g., broad-band equipped or mobile surveillance equipment, communications)
  • • ใช้อุปกรณ์สำหรับตรวจเฝ้าระวังแบบเคลื่อนที่เพื่อติดตามการขนส่ง (เช่น อุปกรณ์สำหรับตรวจเฝ้าระวังแบบเคลื่อนที่หรือแบบแถบความถี่กว้าง การสื่อสาร)
    • Use one-way valves to restrict access to product
  • • ใช้วาล์วแบบทางเดียวเพื่อจำกัดการเข้าถึงผลิตภัณฑ์
    • Use peer monitoring (e.g., buddy system) during operations or in assigned locations
  • • ใช้การตรวจสอบร่วมกัน (peer monitoring) (เช่น ระบบบัดดี้) ในระหว่างการปฏิบัติงานหรือในสถานที่ที่กำหนด
    • Use peer monitoring (e.g., buddy system) to supervise deliveries
  • • ใช้การตรวจสอบร่วมกัน (peer monitoring) เพื่อตรวจตราการส่งมอบ
    • Use personnel (e.g., guards, supervisors, trusted employees) for visual observation at restricted locations and operations
  • • ใช้งานบุคลากร (เช่น ยาม หัวหน้างาน พนักงานที่ไว้ใจได้) ให้คอยสังเกตการณ์สถานที่และการปฏิบัติงานที่หวงห้ามด้วยสายตา
    • Use personnel identification (e.g., color coded uniforms, badges) to restrict access to location, equipment, control, and operations
  • • ใช้การพิสูจน์รูปพรรณของบุคลากร (เช่น เครื่องแบบรหัสสี เครื่องหมาย) ในการจำกัดการเข้าถึงสถานที่ อุปกรณ์ การควบคุมและการปฏิบัติงาน
    • Use physical barriers to restrict access to location, operations, and equipment (e.g., locate in secure room, enclose with a fence, cage, gate, restricted-access ladders, wall, or panel)
  • • ใช้สิ่งกีดขวางทางกายภาพเพื่อจำกัดการเข้าถึงสถานที่ การปฏิบัติงานและอุปกรณ์ (เช่น จัดวางในพื้นที่ที่ปลอดภัย ปิดล้อมด้วยรั้ว กรง ประตูรั้ว บันไดที่จำกัดการเข้าถึง กำแพงหรือแผงกั้น)
    • Use secure packaging (e.g., self-voiding tape, shrink wrapped pallets, tamper-evident packaging)
  • • ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัย (เช่น เทปป้องกันการเปิด พาเลทที่มีกันพันห่อหุ้ม บรรจุภัณฑ์แบบบ่งชี้ร่องรอยการเปิด)
    • Use signage at locations, to restrict access to authorized personnel and/or to restrict trespassing (e.g., separate consolidation, loading, holding areas)
  • • ติดตั้งป้ายที่สถานที่ต่างๆเพื่อจำกัดการเข้าถึงไว้เฉพาะสำหรับบุคลากรที่ได้อนุญาตและ/หรือเพื่อจำกัดล่วงล้ำ (เช่น พื้นที่รวบรวม พื้นที่ขนถ่ายขึ้น พื้นที่พักที่แยกต่างหาก)
    • Use surveillance equipment to monitor locations and operations
  • • ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับตรวจเฝ้าระวังเพื่อตรวจสอบสถานที่และการปฏิบัติงาน
    • Use tamper-evident devices (e.g., seals, covers, locks) to secure openings, access points, equipment and components
  • • ใช้อุปกรณ์บ่งชี้ร่องรอยการบุกรุก (เช่น ที่ปิดผนึก ฝาปิด ตัวล็อค) เพื่อปกป้องช่องเปิด จุดเข้าใช้งาน อุปกรณ์และส่วนประกอบ
    • Use tamper-evident devices (e.g., seals, covers, locks) to secure packaging and storage containers
  • • ใช้อุปกรณ์บ่งชี้ร่องรอยการบุกรุก (เช่น ที่ปิดผนึก ฝาปิด ตัวล็อค) เพื่อปกป้องบรรจุภัณฑ์และภาชนะสำหรับจัดเก็บ
    • Use tamper-evident devices (e.g., seals, covers, locks) to secure transport operations
  • • ใช้อุปกรณ์บ่งชี้ร่องรอยการบุกรุก (เช่น ที่ปิดผนึก ฝาปิด ตัวล็อค) เพื่อปกป้องการปฏิบัติงานในการขนส่ง
    • Visually inspect equipment, equipment components, and supplies prior to use and report anomalies
  • • ตรวจสอบอุปกรณ์ ส่วนประกอบอุปกรณ์ และวัสดุต่างๆด้วยสายตาก่อนใช้งาน และทำการรายงานสิ่งผิดปกติ

END